ในภาวะและสถานการณ์ในโลกปัจจุบัน รวมทั้งสิ่งต่างๆ รอบตัวที่ดูจะเปลี่ยนแปลงและผกผันอย่างรวดเร็ว หลายคนอาจต้องการสิ่งยึดเหนี่ยวหรือที่พึ่งทางใจต่างๆ เข้ามาช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและพลังใจในการจัดการชีวิตของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสายมูเตลู บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไปจนถึงความเชื่อด้านไสยศาสตร์ที่อาจส่งผลกระทบในแง่ลบต่อชีวิต หากไม่ศึกษาหรือทำความเข้าใจอย่างถูกต้อง แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะต้องลดทอนพลังของความเชื่อไปเสียหมด เพราะยังคงมีหลักการที่เรียกได้ว่าได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในยุคนี้ นั่นคือ การ “Manifest” หรือการสร้างพลังแห่งความเชื่อมั่นและลงมือทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้จนสำเร็จ ซึ่งหากเริ่มต้นและเข้าใจหลักการอย่างถูกวิธี การ Manifest ก็สามารถส่งเสริมการสร้างกฎแห่งแรงดึงดูดที่จะนำพาเราไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้ในที่สุด
เราจะบรรลุเป้าหมายผ่านการ Manifest อย่างไร
“Manifest” คืออะไร? ทำความรู้จักพลังแห่งความเชื่อจากกฎแรงดึงดูด
การ “Manifest” หรือ “Manifestation” นั้นอาจจะอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายๆ คือ การตั้งเป้าหมายหรือตั้งความหวังในสิ่งที่ต้องการและพยายามทำสิ่งนั้นให้เกิดขึ้นจริงหรือประสบความสำเร็จ โดยใช้พลังแห่งความเชื่อในเรื่อง “กฎแรงดึงดูด” หรือ “Law of Attraction” ที่มีแนวคิดว่า การคิดสิ่งใด หรือตั้งใจไว้อย่างไร ก็จะได้สิ่งนั้น เพราะฉะนั้นการมีความคิดในแง่บวกหรือมีความเชื่อมั่นในความคิดของตัวเองจะช่วยดึงดูดให้เกิดสิ่งดีๆ ที่เราต้องการให้เป็นความจริงขึ้นมาได้ ซึ่งฟังแล้วอาจจะคล้ายกับการตั้งเป้าหมายหรือการกำหนดจุดมุ่งหมายต่างๆ ในชีวิต แต่ความแตกต่างของการ Manifest คือ การเพิ่มความเชื่อมั่น โดยมีความเชื่ออันแรงกล้าต่อสิ่งที่ตั้งความหวังไว้มากกว่าการมีเป้าหมายธรรมดาทั่วไป เพื่อให้กฎแห่งแรงดึงดูดของจักรวาลนำพาเราไปสู่ความสำเร็จที่ต้องการนั่นเอง
คนทำงานจะนำหลักการ “Manifest” มาใช้ได้อย่างไร?
อันที่จริงแล้ว การ Manifest สามารถนำไปใช้ได้กับทุกเรื่องในชีวิต ทั้งความรัก การเรียน การสร้างความสัมพันธ์กับครอบครัว มิตรภาพระหว่างเพื่อน ไปจนถึงการสร้างพลังและความมั่นใจในตัวเอง สำหรับในเรื่องการงาน หากรู้จักนำหลักการ Manifest มาปรับใช้ก็สามารถช่วยส่งเสริมชีวิตการทำงานของเราได้เช่นกัน เพราะคนที่มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เติบโตไปสู่ตำแหน่งที่ดีก็มักจะเป็นคนที่วางเป้าหมายในการทำงานและโฟกัสกับกระบวนการที่จะนำไปสู่เป้าหมายนั้น หรืออาจเปรียบได้กับการมี Growth Mindset ที่เข้มข้นและจริงจังเป็นพิเศษ ซึ่งมาจากการมีความเชื่อมั่นในการความสามารถและการบริหารจัดการงานของตัวเองมากกว่าคนอื่นๆ และไม่ปล่อยให้ตัวเองขาดการพัฒนาหรือละเลยความสำคัญในการฝึกฝนทักษะต่างๆ ที่อาจทำให้พลาดเป้าหมายในชีวิตการทำงานไปอย่างน่าเสียดาย
เพื่อสิ่งที่ฝันไว้…เริ่มได้เลยวันนี้! 5 วิธีสร้าง “Manifest” เพิ่มพลังใจให้ตัวเอง
รู้ความต้องการของตัวเองอย่างชัดเจน
ขั้นแรกของการ Manifest คือการรู้ว่าตัวเราต้องการอะไรให้ชัดเจน โดยอาจจะโฟกัสหรือลงรายละเอียดไปเลยมากกว่าการคิดแบบหว่านความรู้สึกแบบกว้างๆ เช่น หากเป็นเรื่องงานก็อาจจะระบุความต้องการก้าวหน้าในการทำงานหรือกำหนดเป้าหมายให้ไปถึงตำแหน่งที่หวังไว้เป็นลำดับขั้นตอน ซึ่งจะสร้างความชัดเจนให้เรามากกว่าการคิดแค่ว่าขอให้ได้งานดีๆ หรือขอให้ได้เงินเดือนขึ้น เป็นต้น
ตั้งเป้าหมายอย่างแน่วแน่
หลังจากรู้แน่ชัดถึงความต้องการอย่างละเอียดแล้ว ลำดับถัดไปคือ การตั้งเป้าหมายเพื่อให้สิ่งที่ต้องการสำเร็จดังใจหวัง โดยอาจจะเริ่มจากแนวทางที่ทำได้จริงและง่ายที่สุด หรือลองจดบันทึกทำเป็น Vision Board ส่วนตัว ที่กำหนดเป้าหมายและแนวทางการดำเนินการต่างๆ ให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวัน การพัฒนาฝึกฝนทักษะต่างๆ เพิ่มเติม หรือการลงเรียนหาความรู้ใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นการช่วยย้ำเตือนให้เราไม่ลืมเป้าหมายที่ตั้งไว้ไปเสียก่อน
เริ่มต้นลงมือทำตามเป้าหมายนั้นๆ
สิ่งที่ต้องการจากการ Manifest จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง หากขาดการเริ่มต้นลงมือทำ เพราะความเชื่อหรือจินตนาการต่างๆ ของคนเราไม่สามารถเป็นความจริงได้ ถ้าไม่มีการนำมาปฏิบัติ เมื่อเรามีแนวทางและเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว ก็จงทำตามวิธีเหล่านั้น ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราอยากเปลี่ยนงานหรืออยากเติบโตในสายงานก็ให้เริ่มพัฒนาทักษะที่จำเป็นกับงานนั้นๆ และพยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากที่สุด เพื่อปูพื้นฐานและสิ่งเสริมให้เราสามารถนำเสนอตัวเองไปสู่สายงานนั้นๆ ได้มากขึ้น
ลองออกนอกกรอบดูบ้าง
บางครั้งเมื่อเราต้องเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ ก็อาจเกิดความกลัวหรือกังวล ซึ่งนี่อาจจะเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้เราไม่สามารถไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้ ดังนั้น จึงอาจจะต้องพาตัวเองออกนอกกรอบเดิมๆ หรือพาตัวเองออกจากคอมฟอร์ตโซนที่คุ้นเคย เพื่อสร้างขีดจำกัดความสามารถใหม่ของตัวเองขึ้นมา แลเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ตัวเราเองในอีกทางหนึ่งด้วย
คิดบวกและขอบคุณตัวเองอยู่เสมอ
แม้ระหว่างการ Manifest และลงมือทำตามสิ่งที่ต้องการนั้นอาจจะต้องทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้าจากความท้าทายหรืออุปสรรคต่างๆ ขอให้ความคิดในแง่บวกหรืออยู่ท่ามกลางพลังบวกจากคนรอบข้างให้มากเข้าไว้ นอกจากนี้ให้พยายามขอบคุณและชื่นชมตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน เพื่อเป็นการสร้างพลังใจ พลังบวก และความเข้มแข็งให้กับจิตใจของเราอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม การ Manifest อย่างเดียวอาจไม่สามารถเปลี่ยนเส้นทางชีวิตหรือการทำงานให้เราได้ ใครกำลังอยากเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้ตัวเองแบบทันใจ ลองเข้าไปค้นหางานใหม่ดีๆ กันได้ทันทีที่ JOBTOPGUN ได้เลย
ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหางาน อยากสมัครงานบริษัทตำแหน่งไหน จะเป็นเด็กจบใหม่ไฟแรง หรือต้องการมองหางานประจำที่ช่วยขยับขยายเปลี่ยนสาย Job ให้ก้าวหน้า ก็สามารถหางานด่วนที่ใช่ ในบริษัทที่ถูกใจ ได้ที่ JOBTOPGUN ทั้งทางเว็บสมัครงานออนไลน์ ที่รวบรวมงานพร้อมข้อมูลเงินเดือนจากบริษัทชั้นนำไว้มากมายกับแอปหางานที่อัปเดตใหม่ทุกวัน ดูแลให้คุณได้งานจริง ด้วย Super Resume ที่ให้คุณสร้าง Resume อย่างมืออาชีพ นำเสนอคุณให้โดดเด่นกว่าใคร ยังมีรีวิวบริษัทที่ช่วยให้คุณรู้จักบริษัทมากขึ้นตามความจริง โหลดแอป JOBTOPGUN ได้เลยวันนี้ แม้จบใหม่ก็หางานง่าย ได้งานดี ได้ที่ JOBTOPGUN